วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

NC OS THE SECRET ROOM CS: DON'T BREATHE [CUT20+] CHANYEOL x KYUNGSOO

อ่านตอนก่อนหน้าได้ที่ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1534539&chapter=1


อยากลองตาบอดดูมั้ย?
“พะ พูดอะไร! ไม่.. ไม่มีทาง ถ้าจะฆ่าก็ฆ่ากูเลย เอาปืนมายิงกูซิ! เอาปืนมา!!!” คยองซูเริ่มลนลาน คำพูดมันน่ากลัวเกินไป มันคิดจะทำอะไรกันแน่!?
“ไม่หรอก...ไม่ฆ่า กลิ่นหอมแบบนี้ อาห์.. หึ..หึๆๆ ลองมองไม่เห็นดูซิ สนุก..นะ”

พรึ่บ!’

“เฮือก!
โคมไฟถูกดับ! ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความมืด มืด...จนมองไม่เห็นสิ่งใดเลย แม้จะเป็นคนตาปกติแบบคยองซูก็ตาม ร่างเล็กขยับขาเข้าชิดตัวมากขึ้น แม้จะพยายามกวาดสายตาไปรอบๆ แต่ก็เปล่าประโยชน์
ราวกับเขานั้นตาบอดจริงๆ...
“เป็นไง...”
“ทะ ทำอะไร! จะทำอะไร!?
สุ้มเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น สะท้อนดังก้องไปทั่วทั้งห้อง จึงทำให้โดคยองซูจับทางไม่ออกว่าร่างสูงนั้นอยู่ตรงไหน
“ทายซิ...ว่ากูอยู่ทางซ้ายหรือขวา”
“ไม่! กูไม่ทำอะไรทั้งนั้น!
“แน่ใจหรือ? ถ้าทายถูก กูจะปล่อยมึง แต่ถ้าผิด...กูจะลงโทษ ทายซิ..ทายมา หึๆ ทายเร็วซิ”
“...”
“กูบอกให้มึงทายไง!!!
!!!
เมื่อไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากคยองซู เสียงดุดันก็ตะคอกออกคำสั่ง ร่างเล็กที่หันมองซ้ายขวาในความมืดเริ่มน้ำตาคลอเบ้า
เพราะมองไม่เห็น...จึงน่ากลัวกว่าเดิมเป็นสิบเท่า
“ซะ..”
“แน่ใจกับสิ่งที่จะพูด?
“ซะ.. อึก.. ขวา...”
ลังเล.. คยองซูลังเล
เขามีความรู้สึกว่าร่างสูงนั้นอยู่ทางซ้าย ทว่าเขากลับลังเลที่จะพูด...
“หึ...”
“...”
“...”
“ถะ ถูกรึเปล่า?” คยองซูเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ กลายเป็นเสียงหัวเราะเบาๆ ของปาร์คชานยอลดังแทรกขึ้นมา
“ฮี่ๆ...”
“...”
“ถูก ดีใจด้วย”
ราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก คยองซูลอบถอนหายใจแผ่วเบา ทว่าคำพูดต่อจากนั้นเองที่ทำเอาร่างเล็กตัวแข็งทื่อ!
“แต่เสียใจ... กูไม่ปล่อยมึงไปหรอก”
“อึก อ้ะ! อย่า! อย่า!!!
ราวกับหัวใจถูกบีบรัดเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำจากปากชานยอล มือกร้านจับข้อเท้าเล็กข้างหนึ่งดึงลากจนอีกคนหงายลงไปบนเตียง แล้วจึงจับข้อเท้านั้นยกขึ้นสูงจนสะโพกลอยขึ้นจากเตียงเล็กน้อย หากตอนนี้ไฟเปิดอยู่ คงได้เห็นภาพที่ร่างสูงอยู่ตรงกลางระหว่างขาของคนตัวเล็ก และภายในที่เปลือยล่อนจ้อนของคยองซูก็ถูกเผยออกเนื่องเพราะเสื้อคลุมนั้นร่นย้อนขึ้นไปกองที่เอวจนหมด ขาขาวพยายามเตะถีบอีกคนทว่าชานยอลก็คว้าจับไว้ได้ทั้งสองข้าง
“อาห์ ร้องซิ ร้องดังๆ..หึ ฮ่าๆๆ อืม...”
ลิ้นร้อนแลบเลียที่ข้อเท้าข้างซ้ายของร่างเล็ก คยองซูชะงักตัวแข็งค้างเมื่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นร้อนเฉอะแฉะที่ข้อเท้าด้านใน ลากเรื่อยขึ้นถึงส่วนน่อง.. หลังข้อพับขา.. และโคนขาอ่อน ราวกลับร่างสูงต้องการจะกลืนกินทั้งร่างของเขา...
“อาห์.. อืม.. หอม.. แผล่บ
เสียงน่าขยะแขยงดังขึ้นในความมืด เมื่อได้สติ ร่างเล็กจึงออกแรงถีบเท้าทั้งยังใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ทุบตีผลักดันหัวอีกคนที่เข้ามาใกล้จุดอ่อนไหวจนเกินไป
“อย่า!! ไอ้โรคจิต มึงมันโรคจิต!
คยองซูทั้งตัวสั่น ทั้งหวาดกลัว... แต่ก็พยายามดิ้นรนขัดขืนด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทว่าพนักงานร้านอาหารตัวเล็กๆ อย่างเขาที่ไม่เคยได้ออกกำลังกายใดๆ นอกจากเดินและยกของในร้าน จะไปสู้ตำรวจที่ฝึกฝนร่างกายมาอย่างดีได้อย่างไรกัน!

ตุ้บ!’
“อึก.. อือ..”

ร่างของโดคยองซูขดลงเพราะความจุก หมัดหนักๆ ของปาร์คชานยอลกระทบเข้ากับช่วงท้องของร่างเล็กอย่างแรง ความรู้สึกจุกและเจ็บแทรกซึมเข้าภายในร่าง ใบหน้าหวานบิดเบี้ยว ทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ มือข้างที่พยายามผลักไสร่างหนากลับต้องเอาลงมากุมท้องไว้แน่น
“หมดฤทธิ์ซักที ฮี่..”
ปาร์คชานยอลหัวเราะอย่างโรคจิต ก่อนจะก้มลงใช้จมูกซุกไซร้ที่โคนขาอ่อนด้านในของอีกคนอย่างหื่นกระหาย เนื้อนุ่มนิ่มถูกโลมเลียและขบเม้มจนเกิดรอยสีกุหลาบนับไม่ถ้วน ขาทั้งสองข้างถูกจับแยกออกกว้างเพื่อให้ใบหน้าคมซุกไซร้ได้ถนัด มือหนาบีบขยำลูบไล้ไปทั่วต้นขาและเนื้อสะโพกนวลเนียน นิ้วโป้งสองข้างจับก้นกลมกลึงแยกออกจนเห็นช่องทางรักได้ชัดเจน ปลายนิ้วถูกส่งลงแตะลูบที่ปากช่องทางอย่างหยอกล้อ ตลอดการกระทำมีแต่เสียงหัวเราะที่น่ารังเกียจของปาร์คชานยอลคลอไว้ด้วยเสมอ
“อย่า.. จะ..ทำอะไร.. อือ ยะ อย่า”
ร่างของคยองซูกระตุกเกร็งเพราะการกระทำจาบจ้วงจากร่างสูง เขาอยากขัดขืนแทบบ้า.. แต่ตอนนี้แม้แต่จะออกแรงยกขาขึ้นถีบยังจุกไม่หาย ความเจ็บแล่นปลาบไปทั่วทั้งตัวทันทีที่เขาเริ่มออกแรง ความรู้สึกที่เรียกว่า น่าสมเพช ตีตื้นขึ้นมาในสมอง เขาเองก็เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่กลับต้องมาถูกหยามเหยียดจากชายตรงหน้าที่เป็นเพียงคนโรคจิตคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ
ช่างน่าสมเพชสิ้นดี
“อ้ะ! เจ็บ! อึก!
คยองซูสะดุ้งหุบขาเข้าหากันทันทีเมื่อร่างสูงกัดเข้าที่ท้องน้อยของตนอย่างแรง และความเจ็บที่โดนต่อยก่อนหน้าก็แล่นแทรกขึ้นมาอีกระลอก ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นระงับความรู้สึกเจ็บร้าว น้ำตาเอ่อคลอที่หางตา ทว่ามือขาวบอบบางก็ยังพยายามยกขึ้นผลักไสอีกคนออกด้วยแรงทั้งหมด แม้จะเจ็บแค่ไหน แต่เขาจะไม่ยอมโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเป็นแน่!

ทว่าแรงอันน้อยนิดนั้นไม่สามารถแม้แต่จะทำให้ปาร์คชานยอลขยับได้เลย

“ออกไปนะ! ไอ้โรคจิต! ออกไปนะโว้ย! อึก ฮือ ออกไป!

ไร้ประโยชน์... ไร้ประโยชน์สิ้นดี

ปาร์คชานยอลยังคงมัวเมาลุ่มหลงในกลิ่นหอมเย้ายวนจากร่างบอบบาง ปลายจมูกโด่งไล้ไปตามหน้าท้องขาวกระทั่งถึงกลางอกและเลยไปซอกคอ มือหนาสอดเข้าใต้แผ่นหลังบางแล้วออกแรงยกเพื่อจะได้สูดดมได้ถนัด เสียงฟึดฟัดดังขึ้นแทบทุกที่ที่ใบหน้าคมก้มลงซุกไซร้ คยองซูสะท้านทั้งร่าง ความรู้สึกแปลกปลอมเริ่มเข้าแทรก ทว่าในหัวก็พยายามดึงสติกับมา เขาจะไม่ยอม...ไม่มีทางยอม ไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร เขาย่อมยอมตายดีกว่าให้ไอ้โรคจิตนี่ทำอะไรบ้าๆ กับร่างกายของเขา!
ตุ้บ
“ออกไป!
มือเล็กวาดตบลงที่ข้างหูของร่างหนา ใบหน้าหล่อเหลานิ่วลงเพราะความเจ็บ แม้จะไม่มากแต่ส่วนที่มือเล็กตบลงมานั้นคือส่วนอ่อนไหวจุดหนึ่ง หากโดคยองซูมีแรงมากกว่านี้...เขาคงมีสิทธิ์จะสลบไปแล้ว
แต่แรงน้อยๆ แบบนี้ จะไปทำอะไรได้!
“มึง! อยากเจ็บตัวนักซินะ!!
“ฆ่ากูซิ! มาทำแบบนี้กับกูทำไม!
เพี้ยะ! เพี้ยะ!’
ฝ่ามือหนาฟาดลงบนใบหน้าหวานอย่างแรงถึงสองครั้งจนปรากฏรอยนิ้วมือสีแดงพาดผ่านพวงแก้มนุ่มนิ่ม กลิ่นเลือดที่คละคลุ้งในโพรงปากบางบ่งบอกว่าร่างสูงนั้นมือหนักขนาดไหน
“หาเรื่องเจ็บตัว”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยก่อนจะเดินลุกขึ้นไปจากฟูก ทิ้งโดคยองซูให้นอนหอบหายใจอยู่บนนั้นเพียงลำพัง ซีกหน้าที่ถูกตบนั้นชาไปหมด รสเลือดฝาดปร่าทำให้ร่างเล็กเค่นยิ้มออกมาอย่างสมเพชตัวเอง

พรึ่บ

โคมไฟถูกกดเปิด ภาพบนเตียงปรากฏร่างเล็กที่นอนหอบ ใบหน้าขาวที่ตื่นตระหนกทว่าแดงซ่านน่าขยี้ ทั้งยังเรียวขาขาวทั้งสองข้างที่ถูกจับแยกออกจากกัน รอยสีกุหลาบจากฝีมือของชานยอลปรากฏเป็นสีจางมากมายกับเสื้อคลุมที่หลุดลุ่ยจนไม่สามารถปกปิดอะไรได้...
ช่างเป็นภาพที่น่ามองเสียจริง
“มือซนแบบนี้ คงต้องทำให้ขยับไม่ได้ซินะ หึ”
ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังถึงกับชะงักค้าง คยองซูพยายามดันตัวลุกขึ้น สิ่งที่เขาเห็นอยู่ในมือใหญ่นั่นคือเชือกสีน้ำตาล มีความยาวไม่มากไม่น้อย ร่างเล็กรับรู้ได้ไนทันทีว่าคงไม่พ้นโดนมัดมือเป็นแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้น มือเล็กข้างที่ยังเป็นอิสระจึงถูกเก็บซ่อนไว้ด้านหลัง แม้ว่ามันจะเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ แต่คยองซูก็อยากจะยื้อไว้ให้ได้นานที่สุด เขาจะไม่มีทางยอมนอนอยู่เฉยๆ ก้มหน้ารับสิ่งที่จะเกิด อย่างน้อยคือพยายามไม่ให้ชานยอลจัดการตนได้โดยง่าย
“เอามือออกมา”
ร่างสูงคุกเข่าลงบนฟูกที่ข้างตัวอีกคนก่อนจะยื่นมือออกพร้อมทั้งเอ่ยคำสั่งราบเรียบ ร่างเล็กจ้องดวงตาคมนั่นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“ไม่!
“มึงว่าไงนะ!!!
“อ็อก! อึก!
เชือกหนาที่ชานยอลตั้งใจเอามามัดมืออีกคนกลับกลายเป็นเอาไปรัดไว้ที่ต้นคอแทน ร่างเล็กดิ้นพล่าน ทั้งมือและเท้าสะบัดเตะต่อยทุบตีร่างสูงรัวเพื่อให้ปล่อยเชือกนั่น ทว่าก็ไร้ปฏิกิริยาใดจากคนด้านบน มีเพียงรอยยิ้มหวานละมุนส่งมาให้เพียงเท่านั้น มันช่างตรงข้ามกับการกระทำโดยสิ้นเชิง
“หึๆ ฮ่าๆๆๆ”
มือหนาดึงรั้งเชือกแน่นขึ้น โดคยองซูเปลี่ยนจากทุบตีอีกฝ่ายมาเป็นพยายามใช้มือจับที่เชือกเพื่อจะดึงคลายความแน่น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำได้ ชานยอลนั้นแรงเยอะเกินไป บวกกับเขามีมือที่ไร้พันธนาการเป็นข้างเดียวจึงยากต่อการต่อกรกับคนตรงหน้า
ลูกนัยน์ตาเริ่มลอยขึ้นด้านบน ริมฝีปากอิ่มอ้าออกกว้าง มือและเท้าบิดเกร็ง สติที่ประคองอยู่กำลังจะดับวูบลงทุกวินาที ภาพชายอำมหิตตรงหน้ากลับพร่ามัว และในที่สุด...
“อะ แฮ่ก แค่กๆๆ!
ผ่านไปเพียงครู่เดียว เมื่อปาร์คชานยอลเห็นว่าคนใต้ร่างนั้นเริ่มจะทนไม่ไหว มือหนาจึงคลายเชือกออกจากลำคอขาว ทิ้งร่องรอยสีแดงช้ำไว้เป็นของดูต่างหน้า
ชานยอลไม่ใช่คนโง่ เขาไม่มีทางฆ่าคยองซูเด็ดขาด กลิ่นแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆ และหากเขาฆ่าร่างเล็ก ก็เท่ากับว่าเขาจะสูญเสียน้ำหอมที่มีมูลค่ามากมายมหาศาลไป หากเปรียบคยองซูเป็นสิ่งของ ก็คงเป็นของหายากที่หากได้มาครอบครองแล้วต้องทำทุกทางเพื่อจะรักษาไว้
แต่หาก...ทำแตกหักเสียหายบ้างก็คงไม่เป็นไรนัก :)
“สีหน้าดีนี่”
น้ำเสียงโรคจิตเอ่ยขึ้นขณะที่มือหนาฉวยเอาข้อมือบางของคนตัวเล็กที่กำลังไร้เรี่ยวแรงมาจัดการมัดติดกับข้อมืออีกข้างที่มีกุญแจมือคล้องเอาไว้ ทำให้ตอนนี้มือสองข้างที่อยู่เหนือหัวถูกตรึงไว้โดยสมบูรณ์ โดคยองซูที่สมองตื้อชาเพราะขาดอากาศไปช่วงระยะหนึ่งพยายามดึงสติกลับมา ภาพตรงหน้ายังคงเป็นปาร์คชานยอลกับกางเกงขายาวตัวเดิม ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปคือที่เป้ากางเกงที่นูนชัดขึ้นเป็นรูปร่างแก่นเนื้อขนาดใหญ่พอสมควร ร่างสูงหัวเราะในลำคอก่อนจะดึงกางเกงของตนลงจนส่วนกลางลำตัวนั่นดีดผึงออกตั้งตรงมาทางโดคยองซู ร่างเล็กอยากจะหนีไปจากตรงนี้เหลือเกิน รู้อยู่แก่ใจว่าหมอนั่นจะทำอะไร แต่กลับขัดขืนไม่ได้เลยซักนิด ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกทำได้เพียงหุบขาเข้าหากันและพลิกหนีไปอีกด้านเท่านั้น พลันน้ำตาที่เหือดหายกลับคลอหน่วย เสียงแหบแห้งเอ่ยแผ่วเบา
“อย่า...”
“อย่าช้า?
ปาร์คชานยอลตรงเข้าจับดึงขาอีกฝ่ายแยกออกเหมือนเดิม ก่อนจะก้มลงใช้หน้าซุกไซร้ตรงกลางลำตัวของอีกคนทั้งยังจูบสลับกับขบเม้มที่โคนขานวลเนียนย้ำไปมาจนกายเล็กบิดเร้า แม้เขาจะขยะแขยงหรืออยากหนีไปมากเพียงใด ทว่าร่างกายนั้นห้ามไม่ได้เหมือนความคิด
สำหรับชานยอล กายเล็กมีกลิ่นที่เย้ายวนที่สุดตั้งแต่เคยพบเจอมา ดังนั้นเขาจึงไม่เบื่อที่จะสูดดมหรือก่ายกอดร่างนี้แม้แต่นิด
ราวกับสารเสพติด...
“ยะ.. อย่า อย่า!!! โอ๊ย!
ทันทีที่ปลายลิ้นร้อนเลียตวัดส่วนหัวของแท่งเนื้อกลางตัว คยองซูก็สะดุ้งเฮือก แต่จากนั้นกลับรู้สึกเจ็บจี๊ดที่กลางแก่นกายสีชมพูอ่อน
“อย่ากัด! อย่า! จะ เจ็บ อึก..”
ขาเล็กพยายามหุบเข้าหากันแต่ก็ติดหัวของอีกคน ร่างสูงแกล้งกัดลงที่แก่นเนื้อของอีกคนแรงๆ ทำเอากายบอกบางกระตุกเกร็งในทันทีด้วยความจุกเจ็บ ชานยอลเหลือบสายตาขึ้นมองใบหน้าหวานขณะที่ผละฟันขาวออกแล้วจึงใช้ลิ้นร้อนละเลงทั่วแก่นกายของคนใต้ร่างแทน นัยน์ตาคมฉายแววความหื่นกระหายอย่างปิดไว้ไม่มิด มันทำให้ร่างเล็กต้องหลบสายตาเสมองไปทางอื่น น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกจากหางตา ดวงหน้าอ่อนเยาว์ขึ้นสีแดงจางเพราะความเจ็บและเสียวปะปนกัน
“หึๆ.. เสียวใช่มั้ย? หืม..”
“มะ ไม่! อ้ะ! ยะ อึก..”
ร่างเล็กบิดเร้าเมื่อปลายลิ้นอุ่นชื้นแฉะของชานยอลแลบเลียวนทั่วส่วนหัวของแท่งเนื้อตน ความรู้สึกวูบวาบในกายปะทุขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ในขณะที่ลิ้นนุ่มชื้นตวัดรัวเลียที่ส่วนปลายก่อนจะอมเข้าไปจนสุดลำ ปากหนาห่อเข้าหากันเพื่อให้ทุกส่วนในปากแนบไปกับแก่นกายของคนตัวเล็ก ความแข็งขืนที่อยู่ในโพรงปากของปาร์คชานยอลนั้นบ่งบอกว่าคยองซู..กำลังมีอารมณ์ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นก็ตาม..
“อย่า อะ อะ อือ ฮึก! อย่า..”
เสียงร้องห้ามแผ่วเบาลงในขณะที่ร่างสูงรูดรั้งริมฝีปากดูดดุนแก่นเนื้อสีสวยอย่างไม่รังเกียจ กลิ่นฟีโรโมนที่หลั่งออกมาขณะร่วมเพศนั้นจะยิ่งรุนแรงกว่าเวลาปกติ มันเป็นกลิ่นที่ชานยอลชอบที่สุด.. ดังนั้นหากเขาจะหมกมุ่นอยู่กับร่างตรงหน้าทั้งวัน...ทั้งคืน ก็คงไม่แปลกเท่าใดนัก
“อา.. อะ... อุบ..”
เสียงครางในลำคอของคยองซูดังขึ้นสลับกับพยายามเก็บกลั้น ร่างสูงนั้นเก่งเกินไป...ความช่ำชองในการทำออรัลเซ็กซ์นั้นทำเอาร่างเล็กแทบคลั่ง แต่ศักดิ์ศรีเพียงหนึ่งเดียวคือเสียงที่พยายามเก็บไว้อย่างสุดความสามารถนั้น จะไม่มีวันเปล่งมันออกมาอีกเด็ดขาด
ฟุ่บ
“ไม่ร้องแบบนี้คงต้องใช้วิธีอื่นแล้วมั้ง..ฮี่ๆ”
ริมฝีปากหนาถอนออกจากแก่นกายของร่างเล็ก แม้จะไม่เสร็จดั่งคาด แต่ก็ดีแล้ว... และเสียงทุ้มเย็นของปาร์คชานยอลที่เอ่ยขึ้นทำเอาคยองซูที่ตอนนี้นอนหอบหายใจเพราะโพรงปากของร่างสูงชะงักเกร็ง เขาพอรู้ว่าสิ่งที่ชานยอลบอกก่อนหน้าเรื่องกลิ่นนั่น คือร่างสูงจำเป็นต้องมีเซ็กซ์กับเหยื่อที่มีกลิ่นแบบที่ตนชอบ มันถึงจะได้กลิ่นตัวเอง เพราะกลิ่นนั้นจะติดกันจากการสัมผัส และเมื่อปาร์คชานยอลหยุดใช้ปากให้กับเขา นั่นแสดงว่าต่อไปคงไม่พ้นสอดใส่...
“อย่า!!! มึงอย่าทำนะ!!!
“โอ้.. ปฏิกิริยาดีนี่ หึๆๆ”
 “ไอ้เลว! สาระเลว! มึงมันระยำ!
“ลองมีผัวเป็นคนเลวระยำดูบ้างซิ รู้มั้ย..มึงทำหน้าตาได้น่าเอามาก”
มุมปากหนากระตุกยิ้มในขณะที่กายสูงใหญ่ตรงเข้าทาบทับร่างบอบบางที่ดิ้นพล่านอย่างสุดชีวิต

ไม่! ไม่! อย่า!!!

ฟุ่บ

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!

แท่งเนื้อร้อนถูกกระแทกเข้าในช่องทางรักสีอ่อนอย่างแรงจนเกือบมิดในทีเดียว เสียงกึกลั่นขึ้นเบาๆ ทำให้รู้ว่าช่องทางอ่อนนุ่มนั้นต้องฉีกขาดเป็นแน่..แต่ปาร์คชานยอลไม่สน
สะโพกสอบค่อยๆ ดึงแท่งเนื้อตนออกช้าๆ ก่อนจะยอ้มเจ้าเล่ห์และกระแทกกายโถมเข้าใส่คยองซูอย่างแรงจนร่างเล็กขยับขึ้นไถกับผ้าปูเตียง มือเล็กบีบรั้งโซ่กุญแจมือไว้แน่นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว
เจ็บ.. เจ็บจนจะบ้าตายอยู่แล้ว!

“เอาออกไป ฮึก.. เจ็บ เจ็บ!!!

หยาดน้ำใสไหลลงอย่างต่อเนื่อง ดวงตากลมโตสั่นระริก ข้อมือที่ถูกมัดจนแน่นทั้งสองข้างเจ็บร้าวทว่าก็ไม่มากเท่ากับช่องทางด้านล่างที่มีแท่งเนื้ออันใหญ่โตจากคนร่างสูงสอดใส่ไว้อยู่ ความคับแน่นของคนตัวเล็กทำให้แท่งร้อนของชานยอลขยับได้ยาก ทั้งยังปราศจากสารหล่อลื่นใดๆ มีเพียงของเหลวสีแดงที่หลั่งออกมาเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับร่างสูงมันอาจจะแค่คับแน่น แต่สำหรับคยองซูนั้นมันเจ็บราวกับร่างจะฉีกขาด ความเจ็บซ่านแผ่ขยายจากด้านในจนถึงด้านนอก ร้าวจนถึงต้นขาและหน่วงที่ท้องน้อย
เป็นครั้งแรก..ที่โหดร้ายจนไม่อาจบรรยาย
“อาห์...ซี้ด แน่นชิบ อืม”
เสียงครางต่ำในลำคอของปาร์คชานยอลถูกเปล่งออกมาพร้อมๆกับที่เอวหนาเริ่มขยับกระทั้นกายเข้าออกในช่องทางรักของคนด้านล่างอย่างช้าๆ โดคยองซูหมดสิ้นเรี่ยวแรงจะขัดขืน ได้แต่หลับตาแน่นซุกหน้าลงข้างต้นแขนขาวของตน ชานยอลสอดมือเข้าใต้ข้อพับขาเล็กแล้วจึงยกขึ้นสูงส่งผลให้สะโพกกลมกลึงเองก็ถูกยกขึ้นอยู่ในท่าที่รองรับแท่งร้อนจากอีกคนได้ถนัด กายเล็กอ่อนปวกเปียกปลงรับกับชะตากรรมตน ทว่าริมฝีปากนุ่มนิ่มก็ปิดแน่น ไม่ให้เสียงใดๆ เปล่งออกไปได้ ถึงจะเจ็บเจียนตายก็ไม่มีทางส่งเสียงออกไปเด็ดขาด!
“ร้องซิ.. ร้องออกมา”
ชานยอลไม่ปล่อยให้ร่างเล็กทำตามใจตัวเอง คยองซูเม้มปากลงแน่นกว่าเดิม กลั้นเสียงสะอื้นไว้ภายใน ขาเล็กหุบเข้าหากันจนเบียดแขนอีกคนที่ประคองไว้แน่น เขาจะไม่มีทางเปล่งเสียงอะไรออกไปทั้งนั้น!
            “ไม่ร้องซินะ...อาห์ ข้างในมึงนี่ ซี้ด ตอดกูดีชิบหาย อาห์! หอม กลิ่นนี้ล่ะ อืม”
“อึก!
เอวสอบกระแทกแท่งเนื้อร้อนเข้าใส่ตัวอีกคนแรงกว่าเดิม ทั้งยังลึกขึ้นจนไปกระตุ้นเข้าโดนจุดไวต่อสัมผัสที่ด้านใน อกบางกระตุกขึ้น แม้จะพยายามใช้ปากเล็กกัดที่ต้นแขนตนเพื่อระงับเสียงและความเจ็บ แต่ขาเล็กนั้นกลับบิดเกร็งต่อต้านอีกคนเต็มที่
แต่ชานยอลไม่ได้สนใจ แท่งเนื้อใหญ่โตยังคงขยับเข้าออกเร็วขึ้นและหนักหน่วงจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง

พั่บ พั่บ พั่บ

“หันหน้ามานี่!!!
พูดจบ ร่างสูงก็จับหน้าอีกคนให้หันมาอย่างแรง ดวงตาฉ่ำน้ำกับคิ้วที่ขมวดกดลงเล็กน้อย ปลายจมูกและพวงแก้มขาวนวลที่ขึ้นสีแดงซ่าน ริมฝีปากอิ่มน่ากัดเผยออกเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว เป็นภาพที่ชวนมองจนแท่งเนื้อร้อนปวดตุบขึ้นมาอีกรอบ
“มึงจะเอาอะไรอีก! อ้ะ! อื้อ อ้ะๆๆๆ อึก!
ทันทีที่คยองซูตะโกนใส่ ปาร์คชานยอลก็ถือโอกาสกระทั้นกายเข้าในช่องทางถี่รัว ย้ำจุดเสียวซ้ำๆ จนคยองซูทนไม่ไหวเผลอหลุดเสียงน่าอายนั่นออกมา กายเล็กที่ขยับตามแรงกระแทกและสีหน้าที่ดูดีแม้กำลังทรมานนั้นราวกับออกมาจากหนังเอวีซาดิสม์ซักเรื่อง ร่างสูงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนจะก้มลงซุกไซร้ที่ซอกคอและแผ่นอกบางอย่างมัวเมา ลิ้นร้อนลากเลียจากซอกคอขึ้นไปที่กกหูและข้างแก้มนิ่ม ร่างเล็กผินหน้าหนีด้วยความรู้สึกขยะแขยงทั้งยังสมเพชตัวเองที่ต้องมาทอดกายให้กับคนเป็นโรคประสาททั้งยังเป็นคนที่ฆ่าน้องชายของตน มือเล็กยังคงกำแน่น แต่ทว่าท่อนล่างนั้นกลับปล่อยให้ร่างสูงได้ทำตามใจ

“หอม อืม.. หอมจริงๆ อาห์ กูจะเอามึงทั้งวันทั้งคืน หึๆ ฮ่าๆๆ”

ค่ำคืนโหดร้ายยังคงดำเนินต่อไปไม่รู้จักจบสิ้น ผ่านนานหลายชั่วโมง จนร่างบอบบางสลบไป ทว่าเมื่อตื่นมา ชานยอลก็จะเริ่มบรรเลงบทรักที่แสนโหดร้ายและน่ารังเกียจต่ออย่างไม่คิดสนใจว่าเขาต้องการมันหรือไม่ เป็นอย่างนี้วนลูปอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน กระทั่งร่างเล็กปลงกับทุกสิ่ง เขาพยายามจะทำตัวให้เป็นเพียงตุ๊กตามีชีวิต ไม่ส่งเสียง ไม่แสดงอารมณ์ ทว่าเมื่อทำแบบนั้น สิ่งที่ได้มาคือบาดแผลนับไม่ถ้วน...

เพี้ยะ!!!’

แส้หนังถูกฟาดลงบนแผ่นหลังบาง คยองซูตัวสั่นเทิ้มขณะที่กลั้นเสียงร้อง เมื่อเห็นดังนั้นปาร์คชานยอลจึงฟาดมันลงซ้ำๆ ที่เดิมจนในที่สุดร่างเล็กก็ส่งเสียงออกมาจนดังลั่นห้อง หรือบางทีก็จับเขามัดทั้งตัวจนแทบขยับไม่ได้ คยองซูต้องทนรองรับเซ็กซ์ที่หนักหน่วงรุนแรงบ้าคลั่งของชายตรงหน้านับครั้งไม่ถ้วน ทว่าก็ไม่มีท่าทีเบื่อหน่ายจากปาร์คชานยอลให้เห็นแม้แต่น้อย กลับกัน ความปรารถนานั้นทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันๆ


...ยากจะหลุดพ้นจากพันธนาการ...




กลับไปเม้นติชมกันได้ที่...
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1534539&chapter=1https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1534539&chapter=1

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559

NC OPPRESS: CHAPTER 11 [CUT19+] JONGIN x KYUNGSOO



Hey good boy… ใช้ปากที่พร่ำไม่ถูกเวลานี่ให้เป็นประโยชน์ดีกว่า หึ”

ฟึ่บ

เสียงรูดซิปดังขึ้นพร้อมกับที่คยองซูดิ้นพล่านพยายามหลบหนีจากพันธนาการอย่างสุดชีวิต ในหัวนั้นคิดไปถึงใบหน้าของแบคฮยอน จนถึงคุณอาซีวอน.. ใครสักคนที่จะสามารถช่วยเขาได้
ทว่าเหมือนตอนนี้เห็นจะมีเพียงคนเดียวที่ฉายภาพแจ่มชัดในความคิด...
คนที่เคยเกือบจะผลักเขาไปสู่ความตาย
คนที่ทำตัวใจร้ายกับเขาเสมอ
แต่เหมือนสุดท้าย...ก็เป็นคนที่ยื่นมือลงมาช่วยเขาอยู่ดี

พี่ชานยอล!!! ช่วยด้วย!!!’
เพี้ยะ!’

ติ๊ด

วีดีโอสิ้นสุดลงทันทีที่จงอินฟาดฝ่ามือลงบนแก้มนวลเนียนเพราะร่างเล็กบังอาจเรียกชื่อของปาร์คชานยอลต่อหน้าเขา

“อื้อ!

จงอินกระตุกยิ้มก่อนจะบีบคางอีกคนให้หันกลับมาแรงจนคยองซูเจ็บร้าวไปทั่วทั้งพวงแก้ม ร่างสูงเค้นหัวเราะในลำคอทั้งยังตะคอกออกมาเสียงดังจนก้องไปทั่วทั้งห้องน้ำ

“มึงเรียกชื่อใคร!!!
“ฮึก..ฮือ”
“กูถามว่ามึงเรียกชื่อใคร!!! พูด!!!
“พะ...พี่ชานยอล”

เพี้ยะ!’

มือหนาฟาดลงที่เดิมซ้ำอีกรอบจนเลือดสีแดงไหลซิปลงจากมุมปาก รอยฝ่ามือสีแดงเข้มปรากฏพาดแก้มขาว ทำให้รู้ว่าแรงตบที่ร่างสูงใส่ลงไปนั้นมันมากแค่ไหน
คยองซูรู้สึกชาไปทั้งซีกหน้าด้านซ้าย กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในปาก ความฝาดของมันยังแตะอยู่ที่ปลายลิ้นเล็ก ...แล้วจงอินก็ทำแบบเดิม เขาบีบปลายคางร่างเล็กให้กันกลับมาอย่างแรงตามโทสะอารมณ์โดยไม่คำนึงถึงว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือไม่

ปีศาจ...

ในหัวคยองซูมีแต่คำนี้เต็มไปหมด นัยน์ตาน่ากลัวที่ถูกส่งมาจากคิมจงอินทำให้เขาตั่วสั่นวาบ มันเต็มไปด้วยความโมโห เย็นชา และดุดัน

“ถ้ากูไม่อนุญาต... อย่าเรียกชื่อมันต่อหน้ากูอีก!!!

เพี้ยะ!’

ครั้งที่สาม...
ฝ่ามือหนาฟาดลงบนแก้มเขาเป็นครั้งที่สาม...
มันเจ็บร้าวไปหมด น้ำตายังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย เลือดสีเข้มซึมออกจากมุมปากมากกว่าเดิม
แม้ปาร์คชานยอลจะไม่เคยทำดีกับเขา แต่ก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายเขาแบบนี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนคิมจงอินทำร้าย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าคนตรงหน้าน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ
อยากหนี...
อยากหนีไปจากตรงนี้...

ร่างเล็กพยายามหยัดตัวลุกขึ้นทว่าก็โดนลิ่วล้อของจงอินกดตัวไว้แน่น ร่างสูงใหญ่ถอนหายใจหนักๆก่อนจะถอดเข็มขัดหนังราคาแพงของตนออกจากกางเกงยีนส์ แล้วดึงมันจนตึงเป็นเส้นตรง

“มึงนี่ดิ้นรนจังเลยนะ หึ”
“พวกสาระเลว...”

คยองซูพูดเสียงแผ่วทว่าด้วยความที่ในห้องน้ำนั้นเงียบสนิท ทำให้แม้จะเป็นเสียงหายใจก็ได้ยินชัดเจน แต่แทนที่อีกฝ่ายจะโกรธ มันกลับหัวเราะราวกับมันน่าขำนักหนา
แต่เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา นัยน์ตาคมพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและโกรธขึง มือหนาจัดการใช้เข็มขัดที่ถอดออกมาเมื่อครู่คล้องคอคยองซูแล้วกระชากอย่างแรงจนร่างเล็กเซเข้าหา ขอบเข็มขัดบาดรัดรอบต้นคอจนมีรอยแดงจาง ใบหน้าหวานนิ่วลงด้วยความเจ็บ

“มึงด่ากูหรือ! หึ จับมันกดลงพื้น!!!

จงอินหันไปสั่งลูกน้องตน และไม่ต้องรอให้พูดซ้ำสอง ร่างบอบบางของคยองซูก็ถูกมือหยาบกร้านทั้งสองคู่กดลงจนใบหน้าและลำตัวแนบไปกับพื้นกระเบื้อง แล้วร่างสูงใหญ่ก็ตามคร่อมทับส่วนต้นขาด้านหลังไว้จนคยองซูขยับไม่ได้ ลมหายใจหอบถี่เพราะความเหนื่อยกระตุกเป็นระยะ เขาห้ามร่างกายให้ไม่สั่นไม่ได้เลย...

ฟึ่บ

เสื้อตัวบางถูกเลิกขึ้นจนเผยให้เห็นหลังขาวเนียนไปมากกว่าแปดในสิบ จงอินเลียริมฝีปากตนก่อนจะก้มลงกัดเม้มจนเกิดรอบแดงไปทั่ว คยองซูเกร็งตัวแล้วพยายามดิ้นทว่าไม่เป็นผล ลิ้นชื้นแฉะยังคงทำหน้าที่มันต่อไปแบบไม่สนสักนิดว่าร่างเล็กจะรังเกียจหรือกลัวมากแค่ไหน

“หยุด! ฮึก อ้ะ!

ไม่ทันที่คยองซูจะได้เปล่งเสียงคำต่อไป ร่างทั้งร่างก็ถูกจับพลิกให้นอนหงายแทน  หันมาเผชิญหน้ากับคิมจงอินที่ตอนนี้ในแววตามีประกายความสนุกอยู่เต็มเปี่ยม มือหนายังจัดการเลิกชายเสื้อคยองซูขึ้นไปสูงจนปรากฏยอดอกสองข้างอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กสะอื้นทั้งยังเหลือบมองซ้ายขวาหาทางหนี แต่คางเล็กก็ถูกจับให้หันกลับมามองหน้าคิมจงอินตรงๆ

“จะหนี?
“อึก..ฮือ”
“นี่พึ่งเริ่มเอง มึงจะไปไหนล่ะ”

เมื่อพูดจบ ใบหน้าคมคร้ามก็ก้มลงใช้ปลายลิ้นดุนดันยอดอกจนทั้งร่างเล็กกระตุกเกร็งด้วยความรู้สึกเย็นวาบของน้ำลายและสัมผัสชื้นแฉะที่น่าขยะแขยง หน้าท้องแบนราบกระเพื่อมตามแรงหอบหายใจ มือหยาบกร้านบีบเคล้นตั้งแต่เอวบางเรื่อยขึ้นไปถึงสีข้างแล้วแผ่นอก
ทุกสัมผัสนั้นดุดันหนักหน่วง...
ไม่ว่าริมฝีปากหนานั่นจะไล่จูบพรมหรือดูดดึงทำรอยไว้บนตัวเขามากแค่ไหน มันกลับไม่รู้สึกเสียวซ่านดังที่ควรเป็น ทว่ากลับรู้สึกกลัวและรังเกียจเสียมากกว่า

ในหัวคิดถึงแต่ภาพปาร์คชานยอล
รู้ว่าแทบไม่มีสิทธิ์หวัง
แต่...อยากให้มา อยากให้มาหา

ช่วยด้วย

“ฮือ...อย่า อย่าทำ ฮึก...”

ร่างเล็กนอนนิ่งไม่ขยับไหวแม้แต่นิด
เขา...เหนื่อยแล้ว

“สวยดี”

คิมจงอินผละลุกขึ้นยืนอย่างอ้อยอิ่ง นัยน์ตาสีเข้มสอดส่ายสำรวจร่างตรงหน้าราวกับชื่นชมผลงานตัวเอง เขาไม่เคยรู้สึกว่าการขืนใจใครมันสนุกเท่านี้มาก่อน
แต่น่าเสียดายที่วันนี้เขามีเวลาไม่มากพอ
ทำเรื่องสนุกได้อีกเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น

            “พี่! ผมว่าเอามันเลยไหม”
            “ใช่พี่ หุ่นโคตรน่าเอา ผมจะไม่ไหวแล้วเนี่ย”

            เสียงลูกน้องของจงอินดังขึ้น คยองซูที่แทบจะยอมแพ้แล้วกลับออกแรงดิ้นแทบจะในทันที ไม่มีทาง! เรื่องบัดซบแบบนั้น! เขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด!

            “ปล่อยมัน”

            คิมจงอินเอ่ยเสียงเรียบ ทั้งตัวคยองซูเองและลิ่วล้อทั้งสองต่างมองคนร่างสูงด้วยความแปลกใจ แต่ก็ยอมปล่อยตามที่ลูกพี่สั่ง เมื่อคยองซูเป็นอิสระ ขาเล็กรีบตะเกียกตะกายหันร่างหนีไปทางประตูทันที

            “ใครให้มึงไป!
            “โอ๊ย!!!

            มือหนากระชากคอเสื้อร่างเล็กไว้แล้วเหวี่ยงลงไปบนพื้นอย่างแรง นัยน์ตาหวานมีประกายของความสับสนและหวาดกลัวอยู่เต็มไปหมด หมายความว่ายังไง!?
คิมจงอินยิ้มเยาะก่อนจะเดินเข้าไปใกล้คยองซูที่นั่งตัวสั่นทั้งที่ยังมีเข็มขัดหนังสีดำคล้องอยู่ที่คอ ดูไปดูมาก็คล้ายกับลูกหมาตัวน้อยที่หวาดกลัว...
น่ารักเสียจริง :)

            “มึงอยากมีผัวพร้อมกันสามคนไหมวะ?
            “คะ คิด คิดจะทำอะไร! อย่า! มะ ไม่!

            คยองซูส่ายหน้ารัว พูดเร็วจนแทบจับใจความไม่ได้ ทั้ร่างกระถัดตัวหนีจนหลังชนเข้ากับกำแพง มือขาวพยายามปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด ไหล่บางกระตุกตามแรงสะอื้นอย่างน่าสงสาร ทว่าสำหรับคิมจงอินนั้นมันเป็นภาพที่ปลุกอารมณ์ดิบของเจ้าตัวได้ดีทีเดียว ดวงตาหื่นกระหายจ้องมองที่ริมฝีปากอิ่มอย่างมีเลศนัย
ร่างสูงก็จัดการดึงกางเกงลงจนถึงต้นขา คยองซูเบนหน้าหลบแทบจะในทันที เขาไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้ว่าจงอินต้องการอะไร แต่ประเด็นคือเขาไม่อยากทำ.. ไม่อยากแม้แต่จะมองเสียด้วยซ้ำ
            ทว่าตอนนี้ไม่มีทางเลือกมากขนาดนั้น ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าใกล้เขาจนสิ่งที่มันแข็งดันอันเดอร์แวร์สีดำของคนตรงหน้าแทบจะชนกับใบหน้าหวานอยู่รอมร่อ

            “อมซะ”
            “...”
            “ถ้าไม่ทำ รับรองได้เลยว่าไม่ใช่แค่พวกกูสามคน แต่มึง...จะมีผัว เป็น สิบ หึ”
            “อึก.. ฮึก..”
            “ทำ!!!
           
            ไม่รอให้คยองซูได้ตอบอะไร มือหนาก็กระชากเรือนผมนุ่มสีดำสนิทอย่างแรงจนใบหน้าหวานแหงนขึ้น มือเล็กได้แต่ทุบที่ขาอีกคนและพยายามดันตัวออกเท่านั้น แต่จงอินก็จับไว้แน่น ทั้งยังกดขอบอันเดอร์แวร์ลงจนแก่นกายสีเข้มอันใหญ่ดีดผึงออกมาชนกับปลายคางเล็ก
            คยองซูขมวดคิ้วแน่นทั้งยังรั้งใบหน้าหนีให้ห่างจากมันมากที่สุดทว่าก็ถูกมือหนาของจงอินล็อคไว้จนแทบขยับไม่ได้ ที่ข้างแก้มสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนของแก่นเนื้ออีกคน ราวกับร่างสูงจงใจทำให้มันมาโดนเขา ทั้งความรู้สึกกลัวและขยะแขยงทับถมภายในจิตใจจนอยากจะอาเจียน

            “อมซิวะ! อ้าปาก!
            “อื้อ!

            มือหนาบีบแก้มเนียนจนริมฝีปากอิ่มเปิดออก และไม่ปล่อยให้รอด.. ร่างสูงจัดการยัดแท่งเนื้อร้อนที่ปลายหัวปริ่มน้ำเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกขับเคลื่อนโดยร่างเล็กตรงหน้าเข้าไปในโพรงปากบางทันที! คยองซูที่ไม่ทันได้ตั้งตัวแทบจะสำลักแต่ก็ติดตรงที่ส่วนกลางตัวของอีกฝ่ายนั้นคาอยู่ในปาก
           
            “ถ้ามึงกัด.. กูจะเอามึงแล้วถ่ายคลิปไปลงเว็บ แล้วก็ส่งไปให้ไอ้ชานยอลดูด้วย ดีไหมวะ”
           
            ดวงตากลมโตสั่นระริกก่อนจะปิดลงอย่างเชื่องช้า...
น่าสมเพช...
นอกจากยอมแล้ว...เขาทำอะไรไม่ได้เลย

มือสั่นเทาของคยองซูค่อยๆเลื่อนขึ้นจับที่ข้างขาอีกคนไว้แน่น น้ำตาไหลออกมาอีกระลอกในขณะที่คิมจงอินยกยิ้มมุมปากอย่างหื่นกระหาย นัยน์ตาคมมองแท่งเนื้อตนที่เข้าไปในปากอีกคนนิ่ง ริมฝีปากนุ่มนิ่มและรสสัมผัสชื้นในโพรงปากทำให้ร่างสูงแทบคลั่ง

“อาห์... ดี อืม...”

เอวสอบเริ่มโยกเข้าออกช้าๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งนิ่ง แต่ถึงแม้ว่าคำขู่ของเขามันจะไม่ได้ผล แล้วร่างเล็กนี่เกิดขัดขืนขึ้นมา เขาได้เตรียมบทลงโทษที่แสนสาหัสไว้รอแล้ว ทว่าเหมือนคยองซูจะฉลาดพอที่จะอยู่เฉยๆ
..ว่าง่ายแบบนี้ค่อยน่าเอ็นดูหน่อย..

“อึก.. อือ..”

คยองซูบีบขาอีกคนแน่น
ขยะแขยง...
ขยะแขยงจนแทบทนไม่ไหวอยู่แล้ว...

“อาห์ คยองซู มึง.. ซี้ดดดด”

เสียงครางกระเส่าของจงอินยังดังไม่ขาด จนลิ่วล้ออีกสองคนที่ยืนมองอยู่ต้องเข้าไปช่วยตัวเองในห้องน้ำ ปล่อยให้ลูกพี่ตนมีความสุขอยู่ข้างนอก
มือหนากอบกุมเส้นผมนุ่มไว้แน่นก่อนจะเริ่มซอยสะโพกเข้าในโพรงปากบางเร็วขึ้น... แรงขึ้น... คยองซูส่งเสียงอู้อี้ในลำคอเพราะมันลึกเกินไป กลิ่นคาวจากแก่นเนื้อคละคลุ้งในปากจนอยากสำรอก ทว่าร่างสูงที่อารมณ์กำลังไต่ขึ้นจุดสูงสุดไม่ได้สนใจสิ่งนั้น เขากระทั้นกายเข้าใส่ในปากนุ่มนิ่มไม่ยั้ง จนคยองซูต้องพยายามดันหน้าออกห่าง แต่มือหนาก็ดันหัวทุยเข้าหาแล้วสวนส่วนกลางตัวเข้าใส่หนักหน่วง
            ร่างเล็กได้แต่นิ่งทนให้มันผ่านๆไป
ทั้งๆที่...สมเพชตัวเองจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว

“อึก!
“ใกล้แล้ว.. อาห์ คยองซู กู จะ..ถึง อืม..”

พรวด

ใช้เวลาสักพัก น้ำรักสีขุ่นก็ทะลักพุ่งออกจากปลายหัว รสฝาดปร่าของมันทำให้คยองซูถึงกับสำลักไอโคล่กไม่หยุด เมื่อได้สติ...มือเล็กก็ออกแรงผลักกายใหญ่ออกห่าง ขาเพรียวหยัดตัวขึ้นก่อนจะตะเกียกตะกายวิ่งหนีเข้าไปที่ห้องน้ำห้องในสุด คิมจงอินที่พึ่งเสร็จ... เอนตัวพิงกำแพงอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาคมเหลือบมองที่ห้องน้ำห้องสุดท้ายที่มีร่างเล็กอยู่ ก่อนจะละสายตามาจัดการทำความสะอาดให้กับแก่นเนื้อของตนพร้อมทั้งยกยิ้ม ลิ่วล้ออีกสองคนเองก็เดินออกมาหลังจากเสร็จกามกิจของตนเช่นกัน

“พวกมึงส่งคลิปไปให้ไอ้ชานยอล ส่วนรูปที่ถ่ายเมื่อกี้ ส่งมาให้กู”
“แล้วไม่ต้องพามันไปเหรอครับ”

ลิ่วล้อคนหนึ่งถามขึ้น คิมจงอินจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินนำออกไป

“ไม่ต้อง ยังมีเวลาสนุกกับมันอีกเยอะ”

.
.
.

กลับไปเม้นติชมกันได้ที่...
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1486000&chapter=12